The Swan Princess เจ้าหญิงหงส์ขาว ภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ว่าด้วยเรื่องราวของ กษัตริย์เดเร็ค และ ราชินีโอเด็ตต์ ครองราชย์ที่อาณาจักรดีเร็นมาเป็นเวลา 10 ปีแล้ว ทั้งสองพระองค์มีความสุขกันมาก แต่แล้ววันหนึ่ง กษัตริย์แม็กซ์ ผู้เป็นบิดาของเดเร็คก็ถูกวางยาพิษจนสิ้นพระชนม์ ทำให้วังต้องสั่นคลอนและตามหาว่าผู้ที่วางยาพิษคือใคร และทำไมถึงทำเช่นนั้น เดเร็คและโอเด็ตต์จึงออกเดินทางเพื่อสืบหาความจริงให้จงได้
ตัวหนังยังได้เล่าเรื่องราวในระหว่างทางที่ เดเร็ค และโอเด็ตต์ ถูกลอบทำร้ายจนต้องปลอมตัวเป็นแบร์รีมอร์และแบร์รีมอร์ คู่สามีภรรยานักมายากลชื่อดังเพื่อความปลอดภัย ทั้งสองได้พบกับโรเจอร์ส นกแก้วผู้ซื่อสัตย์ และสกัลลี หมาป่าผู้กล้าหาญ ซึ่งยินดีช่วยเหลือทั้งสองในการสืบหาความจริง ทว่าเดเร็คและโอเด็ตต์ได้พบกับเบาะแสต่างๆ มากมาย ในที่สุด พวกเขาก็ค้นพบว่าผู้ที่วางยาพิษกษัตริย์แม็กซ์ คือ ราชินีมารีน่า ราชินีแห่งอาณาจักรอเล็กซานเดอร์ ผู้ที่หมายจะครองอาณาจักรดีเร็นเป็นของตนเอง จนต้องต่อสู้กับราชินีมารีน่าและสมุนของเธอเพื่อปกป้องอาณาจักรดีเร็นไว้ให้ได้
นี่ถือเป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นภาคต่อที่หยิบยกขึ้นมาใหม่ตั้งแต่เรื่อง The Swan Princess (1994) ที่ยังคงใช้สไตล์ลายเส้นแบบดั้งเดิมที่เป็นเอกลักษณ์ชัดเจนมาก ตัวละครต่างๆ ก็น่ารักสดใส ดนตรีประกอบก็ดี นอกจากนี้จุดเด่นของเรื่องนี้อยู่ที่การดำเนินเรื่องที่มีความตื่นเต้น เต็มไปด้วยการผจญภัยและต่อสู้ ตัวละครต่างๆ ก็มีพัฒนาการที่น่าสนใจ โดยเฉพาะกษัตริย์เดเร็คที่เติบโตขึ้นและมีความกล้าหาญมากขึ้น ด้วยความที่เป็นแอนิเมชั่นจึงต้องแทรกสิ่งที่ช่วยสอนเด็กๆ ซึ่งก็ได้แฝงไปด้วยแง่คิดดีๆ เกี่ยวกับความรัก มิตรภาพ และครอบครัว สอนให้รู้ว่าเราควรรักและปกป้องคนที่เรารัก ไม่ควรปล่อยให้ความชั่วร้ายครอบงำจิตใจ และให้เด็กๆ ได้เติบโตและกล้าที่จะทำในสิ่งที่อยากทำอยากจะเป็น
สำหรับโดยรวมแล้วต้องบอกว่า The Swan Princess ในภาคใหม่นี้ถือว่าได้ย้อนรอยเรื่องราวต่างๆ ของเจ้าหญิงหงส์ขาวกลับมาอีกครั้ง ได้รับชมความสนุก ดูได้ทุกเพศทุกวัยจากการเป็นแนวผจญภัยแฟนตาซี แม้ว่าฉากแอ็กชันบางฉากอาจดูธรรมดาไปบ้างที่ฉากการต่อสู้ของเจ้าชายนั้นดูไม่ค่อยปกติเท่าไรนัก แต่ด้วยความเป็นแอนิเมชั่นที่ให้เด็กๆ ดูก็จึงพอจะเข้าใจได้บ้าง พอดูจบแล้วได้ทั้งข้อคิดดีๆ และความประทับใจกลับไปไม่น้อยเลยทีเดียว